15 เรื่องแปลก ของนักบินอวกาศที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน จะแปลกสักแค่ไหน?
15 เรื่องแปลก ของนักบินอวกาศที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน มีใครเคยฝัน อยากเป็นนักบินอวกาศบ้างไหม กว่าจะเป็นนักบินอวกาศสุดเท่ที่เราเห็น พวกเขาต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก ให้พร้อมสำหรับภารกิจบนยานอวกาศนานๆ ได้แน่นอนว่า ในสภาวะไร้น้ำหนักบน อวกาศ เรื่องราวแปลกๆมักจะเกิดขึ้นได้เสมอ รวมเรื่องแปลก จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
- ส่วนสูงเพิ่มขึ้น
ถึงจะฟังดูแปลก แต่นักบินอวกาศที่กลับจากภารกิจนอกโลก มีความสูงเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2-5 เซนติเมตร กันเลยทีเดียว เอ๊ะ! แล้วมันเป็นไปได้ยังไงกันนะ นักวิจัยขององค์การนาซา (NASA) ดร. สก๊อต ได้ทดลองใช้อุปกรณ์ Ultrasound ถ่ายภาพกล้ามเนื้อ และกระดูกสันหลังของนักบิน
ทั้งก่อนและหลังภารกิจ พบว่าในสภาวะไร้น้ำหนัก ไขกระดูกสันหลังจะเกิดการขยายตัวออก ทำให้ดูเหมือนสูงขึ้น แต่เมื่อกลับมาบนโลกระยะหนึ่ง ไขกระดูกสันหลังก็จะเกิดการกดทับ ตามแรงโน้มถ่วง และกลับมาสูงเท่าเดิม
- นักบินทุกคนสวมผ้าอ้อม
ในขณะที่คุณกำลังลอยละล่องอยู่บนอวกาศ แล้วเกิดอยากปลดทุกข์ขึ้นมา จะทำยังไงกันดีนะ เดินไปเข้าห้องน้ำก็ไกลเวอร์วัง ไหนจะชุดอวกาศที่ถอดยากเย็นอีก กว่าจะจัดการตัวเองได้ คงทนไม่ไหวแน่ๆ ดังนั้น ผ้าอ้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่นักบินอวกาศทุกคน ต้องสวมทุกครั้ง ตอนปฏิบัติภารกิจ ด้วยผ้าอ้อมชนิดนี้
ทางองค์การนาซาเรียกว่า ผ้าดูดซับประสิทธิภาพสูง ผลิตจากวัสดุพิเศษ ช่วยดับกลิ่น และซึมซับได้มากถึง 2 ลิตร ให้ความรู้สึกแห้งสบาย มีสารให้ความชุ่มชื้น ป้องกันผิวแห้ง หลังจากใช้แล้ว พวกเขาจะทิ้งในถังขยะแบบพิเศษ และกำจัดต่อไป
- ห้องอาบน้ำทรงกระบอก
ถึงจะอยู่ไกลถึงอวกาศ แต่ความสะอาดของร่างกายก็คือสิ่งจำเป็น แน่นอนว่าในสภาวะไร้น้ำหนักแบบนั้น การอาบน้ำของนักบินจึงไม่ธรรมดาไปด้วย เพราะคงไม่สนุกแน่ น้ำที่อาบกลายเป็นก้อน และลอยไปทั่วยาน ดังนั้นทางองค์การนาซา จึงออกแบบห้องน้ำ ให้มีลักษณะเป็นม่านสีขาวทรงกระบอก
ด้านบนติดตั้งฝักบัวสำหรับอาบน้ำ และมีท่อต่อสำหรับดูดน้ำเสีย ออกไปเก็บไว้ในถัง โดยมีโควตาให้ใช้น้ำไม่เกินคนละ 2 ลิตร ต่อครั้ง ส่วนแชมพูและสบู่ที่พวกเขาใช้ เป็นแบบไม่มีฟอง และไม่ต้องล้างออก แม้จะใช้น้ำจำกัด แต่ก็รับประกันได้เลยว่า หอมสะอาดแน่นอน
- มีปัญหากับแรงโน้มถ่วงโลก
ฟังดูเหมือนเรื่องตลก แต่นี่เป็นปัญหาที่ Serious มากของเหล่านักบินอวกาศ พบพวกเขาลอยไปมาในอวกาศ เป็นเวลานาน เมื่อกลับลงมาบนพื้นโลก ร่างกายยังคงคุ้นชิน อยู่กับสภาพนั้นๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง เวลาถือสิ่งของก็จะร่วงหรือหล่นได้ง่าย หรือเดินกันแทบไม่เป็นเลยก็มี
บางคนมีปัญหาเรื่องกระดูกพรุน จากการสูญเสียแคลเซียมในปัสสาวะ รวมถึงอาการวิงเวียนศีรษะร่วมด้วย ดังนั้น หลังจากภารกิจนอกโลก ทุกคนจะต้องเข้ารับการปรับสภาพร่างกายใหม่ เป็นเวลา 45 วัน เพื่อสร้างมวลกระดูก และความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่เสียไป ให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม
- ดวงตาผิดปกติ
อีก 1 ปัญหาระดับชาติ ของนักบินอวกาศที่ปฏิบัติภารกิจนอกโลก เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของของเหลวในสมอง และไขสันหลังเคลื่อนที่สู่ด้านบน จากสภาพไร้น้ำหนักจึงความดันในสมองผิดปกติ และส่งผลกระทบต่อดวงตา ทำให้พวกเขามีปัญหาด้านการมองเห็น แต่อาจตาบอดได้ หากอยู่นานเกินไป
เมื่อนักวิจัยทำการ Scan สมองของนักบินอวกาศ ก่อน-หลัง ภารกิจพบว่าโพรงสมองของพวกเขาใหญ่ขึ้น 11% เพื่อรองรับปริมาณของเหลวที่ไหลขึ้นด้านบน ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่า ทำไมนักบินอวกาศหลายคนจึงประสบปัญหาเรื่องการมองเห็นอยู่บ่อยๆ
- ห้ามร้องไห้เด็ดขาด
ถ้าอยู่บนอวกาศ จะมาดราม่าเหมือนอยู่บ้านไม่ได้หรอกนะ เพราะน้ำตาจะจับตัวเป็นก้อนเหมือนกับเยลลี่แทน ถึงจะไม่น่าเชื่อแต่หลังจาก คริส แฮดฟิลด์ นักบินอวกาศชาวแคนาดา ลองทดสอบด้วยการหยดน้ำดื่ม บนดวงตาแทนน้ำตา ปรากฏว่าน้ำตาจับตัวเป็นก้อนซะงั้น
ปรากฏการณ์สุดเหลือเชื่อนี้ เกิดจากภาวะไร้น้ำหนัก ที่ทำให้โมเลกุลน้ำก่อตัวจนเป็นก้อน แม้จะอยู่ชุดอวกาศเต็มยศก็ตาม ถ้าไม่อยากให้มีก้อนน้ำลอยตุ๊บป่องในชุดอวกาศแล้วล่ะก็ ดราม่าแค่ไหนก็อย่าร้องไห้เด็ดขาด
- ต้องเรียนภาษารัสเซีย
ในขณะที่ภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้กันทั่วโลก แต่สำหรับนักบินอวกาศไม่เป็นแบบนั้นเลย เนื่องจาก นักบินส่วนใหญ่เป็นชาวรัสเซีย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะพูดภาษาอะไรอยู่ ก็ต้องมาเรียนภาษาเดียวกัน เพื่อให้การสื่อสารราบรื่น ดังนั้นนักบินอวกาศทุกคน จะถูกส่งไปเรียนภาษารัสเซียก่อน
จากนั้นจะมีการทดสอบวัดระดับภาษา โดยเฉพาะนักบินที่นั่งด้านซ้าย จะต้องสอบให้ได้ระดับกลางถึงระดับสูงเท่านั้น เพื่อให้การสื่อสารสำหรับนักบินบังคับยานหลัก ซึ่งเป็นชาวรัสเซียรู้เรื่อง จากนั้นจึงจะขึ้นไปปฏิบัติภารกิจบนยานอวกาศได้ ใครที่พูดภาษารัสเซียได้ ก็คือสบายเลยนะเนี้ย
15 เรื่องแปลก ของนักบินอวกาศ ที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน
- ห้ามผายลมนอกชุดอวกาศ
ตราบใดที่อยู่บนโลก คุณจะฆาตกรรมคนข้างๆ ด้วยกลิ่นก็คงไม่ผิดอะไร แต่ถ้าไปอยู่ในอวกาศแล้วล่ะก็ มหันตภัยชัดๆ เพราะก๊าซที่ออกมาประกอบด้วยไฮโดรเจนและมีเทน เมื่อออกมาพบกับก๊าซออกซิเจนในห้องปิด ก็จะเกิดประกายไฟและลุกไหม้ ขึ้นมาเลยล่ะ ฟังดูเหมือนล้อเล่น
แต่สำหรับนักบินอวกาศ ถือว่าเป็นเรื่องระดับชาติเลย เพราะถ้าเกิดไฟไหม้ขึ้นมาละก็ จบเห่แน่ๆ แต่ถ้าหากสวมชุดอวกาศอยู่ก็ไม่เป็นไร เพราะในชุดมีตัวกรองลิเธียมไฮดรอกไซด์ ช่วยขจัดก๊าซพิษให้หายไป และไม่ทิ้งกลิ่นไว้กวนใจเจ้าตัวอีกด้วย
- ออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมง
ในขณะที่พวกเรากำลังออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนักกันอยู่นั้น นักบินอวกาศต้องออกกำลังกาย เพื่อรักษาชีวิต และสุขภาพของตนเองอยู่เสมอ ถึงวันละ 2 ชั่วโมง ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก และกล้ามเนื้อลีบแบน ส่วนเครื่องออกกำลังกายของพวกเขา ก็ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษ
ได้แก่ เครื่องยกน้ำหนัก ลู่วิ่งระบบสั่นสะเทือน และจักรยานระบบสั่นสะเทือน ให้เผาผลาญได้ตามใจชอบ จัดเต็มกันขนาดนี้ใครที่ไม่ออกกำลังกาย ก็ต้องฮึดสู้กันบ้างแล้วล่ะ
- ล็อกตัวเองไม่ให้ลอยขณะหลับ
การนอนหลับบนเตียงนุ่มๆ หลังจากเหนื่อยมาทั้งวัน ถือเป็นสวรรค์ของใครหลายคน รวมถึงนักบินอวกาศด้วย แต่พวกเขาไม่ได้นอนบนที่นอน เหมือนกับพวกเรา เพราะบนอวกาศมีสภาวะไร้น้ำหนัก คงไม่สนุกแน่ หากตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองลอยตุ๊บป่องไปที่ไหนก็ไม่รู้
ดังนั้นพวกเขาจึงต้องนอนอยู่ในถุงนอนที่ล็อกติดกับผนัง และรูดซิปให้เรียบร้อย แต่ในปัจจุบันนักบินแต่ละคน มีห้องเล็กๆเป็นของตัวเอง ให้ความรู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้น โดยจะนอนหลับตามแผน ในแต่ละวันวันละ 8 ชั่วโมง ตามนาฬิกาชีวิต ป้องกันไม่ให้เกิดโรคนอนผิดเวลาต่อไปในอนาคต
- ไม่เคยซักผ้า
อาจดูซกมกไปสักนิด แต่เชื่อหรือไม่ว่านักบินอวกาศแต่ละคน สวมชุดซ้ำไม่ต่ำกว่า 1 สัปดาห์ เนื่องจากเสื้อผ้าที่สวมใส่เป็นแบบต้านเชื้อแบคทีเรีย ทำให้ไม่มีกลิ่น นอกจากนี้บรรยากาศในอวกาศสะอาดกว่าบนโลก จึงใส่เสื้อผ้าซ้ำ ได้โดยไม่รู้สึกแปลก
ส่วนเสื้อผ้าที่ใช้แล้วจะถูกรวมไว้ในยานขนส่งแบบเที่ยวเดียว จากนั้นก็ปล่อยให้โคจรและทำลายตัวเองบนชั้นบรรยากาศโลก เหนือมหาสมุทรแปซิฟิก ในอนาคตทางนาซาตั้งใจว่า จะทำเครื่องซักผ้าแบบพิเศษอบแห้งได้ในตัว ขึ้นไปใช้บนอวกาศ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของนักบินต่อไป
- เชื้อโรคแพร่กระจายเร็วกว่าปกติ
ใครว่าอยู่บนอวกาศแล้วจะรอดพ้นจากเชื้อโรค กลับตรงกันข้าม เพราะมันจะแพร่กระจายได้เร็วกว่า แถมยังรุนแรงกว่าบนโลกอีก นั่นก็เพราะว่าภายในยานอวกาศเป็นระบบปิด เมื่อไอหรือจามเชื้อโรคก็จะแพร่กระจายวนอยู่ในนั้น ไปไหนไม่ได้ ทำให้นักบินอวกาศที่มีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติอยู่แล้ว ติดเชื้อต่างๆได้ง่าย
เช่น ติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร ระบบทางเดินปัสสาวะ นอกจากนี้เป็นเพราะว่าการฆ่าเชื้อภายในยานอวกาศก่อนขึ้นไป ส่งผลให้แบคทีเรียชนิดดีหายไปหมด จึงเป็นโอกาสให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ดีนั่นเอง
- เห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกทุก 45 นาที
ภายในความเสี่ยงอันตรายนอกโลก ก็ยังถือว่ามีเรื่องดีอยู่เหมือนกัน เพราะนักบินอวกาศมีโอกาสได้สัมผัส ช่วงเวลาที่พวกเราหลายคนไม่เคยได้เห็น นั่นก็คือพระอาทิตย์ขึ้นและตก 32 ครั้งภายใน 24 ชั่วโมง ฟังดูเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่นี่คือเรื่องจริง เพราะสถานีอวกาศโคจรรอบโลกด้วยความเร็ว 27,519 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือทุกๆ 90 นาที ทำให้พวกเขาได้เห็นแสงขอบฟ้าสวยๆได้หลายครั้งต่อ 1 วัน น่าอิจฉาไหมล่ะ
- อวกาศมีกลิ่นเฉพาะ
กลิ่นที่ว่านี้ไม่ใช่กลิ่นของนักบินอวกาศแต่มาจากบรรยากาศโดยรอบจริงๆพวกเขายืนยันว่าหลังจากปฏิบัติภารกิจและกลับเข้ายาน คนจะได้กลิ่นแปลกๆติดตัวมาด้วยเสมอ เช่น สเต๊กไหม้ โลหะ ดินปืน กลิ่นเหล่านี้มาจากอะตอมเดียวของออกซิเจนในอวกาศที่ติดบนชุด
ไปทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและโอโซนในยาน ทำให้มีกลิ่นไหม้ออกมา ส่วนความแตกต่างของกลิ่นขึ้นอยู่กับสารเคมี จากดาวแต่ละดวง มาทำปฏิกิริยากับอากาศในเครื่อง จนออกมาเป็นกลิ่นนี้แหละ
- ไปรษณียบัตรประกันชีวิต
เพราะภารกิจนอกโลกมีความเสี่ยง จึงไม่แปลกที่นักบินอวกาศ จะทำประกันชีวิตให้กับตัวเองและครอบครัว เพียงแต่ประกันที่ว่าไม่เหมือนกับคนทั่วไปเพราะพวกเขาได้ใช้ ชื่อเสียงของตัวเองให้เป็นประโยชน์ โดยการเซ็นชื่อบนไปรษณียบัตรและติดแสตมป์ไว้เป็นหลายร้อยใบ ก่อนขึ้นไปบนอวกาศ
เพื่อเป็นหลักประกันว่าหากพวกเขาไม่ได้กลับมา ครอบครัวสามารถขายไปรษณียบัตรเหล่านี้ และนำเงินไปใช้ได้ ปัจจุบันไปรษณียบัตรของพวกเขามีราคาประมูลอยู่ที่ใบละ 32,000 ถึง 128,000 เลยทีเดียว แต่สิ่งที่ครอบครัวของนักบินอวกาศ ห่วงมากกว่าจำนวนเงินเหล่านั้น ก็คือคนที่พวกเขารัก กลับมาอย่างปลอดภัยจริงไหมคะ
สามารถติดตามเรื่องราวเกี่ยวกับ ลี้ลับลึกลับหลุดโลก ได้ที่ :
เรียบเรียง BOMEBAMB