เรื่องเล่าเนสซี เรื่องที่หลายคนสงสัยว่ามันมีจริงๆหรือเป็นแค่เรื่องเล่าของสัตว์ประหลาดที่เราอาจจะเคยพบแค่ในตำนานหรือในเรื่องเล่า แล้วมันเกิดมาจากอะไรล่ะ
เรื่องเล่าเนสซี บางคนเรียกว่าสัตว์ประหลาด แห่งทะเลสาบล็อกเนสส์ มีคนที่เชื่อ และคนที่ไม่เชื่อว่ามีอยู่จริง ซึ่งกลุ่มคนที่เชื่อว่ามีอยู่ ได้ให้ความเห็นว่า เนสซีคือไดโนเสาร์ ที่ยังคงมีชีวิตอยู่
จากประวัติศาสตร์จะพบว่า บริเวณทะเลสาบล็อกเนสส์ ตั้งในยุคสมัยก่อนนั้น เคยเป็นทะเลมาก่อน ซึ่ง ไดโนเสาร์ ในสมัยนั้น ได้เข้ามาอาศัยและหากิน ทำให้สภาพแวดล้อม ของบริเวณนี้เปลี่ยนไป กลายเป็นพื้นที่ส่วนตัว และไม่มีสัตว์อื่นเข้ามารบกวน
สัตว์ที่ดำรงชีวิต ในสถานที่แห่งนี้ เป็นไปได้ว่ายังหลงเหลืออยู่ อีกทั้งยังไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง จากครั้งแรกที่เข้ามาอาศัย ไม่เพียงเท่านั้น หนองน้ำหรือทะเลสาบที่อื่น ๆ ที่มีความคล้ายคลึงกับ ทะเลสาบล็อกเนสส์ และสถานที่ใกล้เคียงกัน มีการค้นพบสัตว์ประหลาด ที่เหมือนกับเนสซีอีกด้วย
ทางฝั่งคนที่ไม่เชื่อ เรื่องราวเหล่านี้ ได้ให้ความเห็นว่า รูปถ่ายรวมถึงภาพเคลื่อนไหว ที่ได้ถูกค้นพบนั้น อาจจะไม่ได้มี ความเกี่ยวข้องกับเนสซีเลย โดยทุกอย่างทำขึ้น เพื่อต้องการสร้างชื่อเสียง ให้ทะเลสาบแห่งนี้กลายเป็น ที่รู้จักมากขึ้นเท่านั้นเอง
เคยมีรายงานว่า พบซากสัตว์ขนาดใหญ่ ที่เหมือนกับเนสซี บนทะเลสาบล็อกเนสส์ เมื่อส่งไปตรวจดีเอ็นเอแล้ว ผลที่ออกมาพบว่า มันก็แค่ซากฉลามเน่าเท่านั้น จนถึงตอนนี้เรื่องราวของเนสซี ก็ยังเป็นสิ่งที่นักวิชาการ ให้ความสนใจอย่างมาก และยังถกเถียงกัน
ซึ่งถือว่าเป็น เรื่องราวที่ยังไม่มีคำตอบ นักโบราณคดีมี ความพยายามสำรวจ และศึกษากันอย่างมากมาย แต่ก็ยังไม่มีคนไหน พบหลักฐานของเนสซี ที่จะเอามายืนยันได้ อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของเนสซี สามารถทำรายได้ ให้กับประเทศสกอตแลนด์ ได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
เนสซี หลายคนมองว่า คือสิ่งมีชีวิตที่มี ความลึกลับขนาดใหญ่ มีรูปร่างคล้ายกับไดโนเสาร์สายพันธุ์ “เพลซิโอซอรัส” ซึ่งมีเรื่องเล่ากันว่า พวกมันอาศัยอยู่ใน ทะเลสาบล็อกเนสส์ ของประเทศสกอตแลนด์ เมื่อปี 1942 มีการสร้างถนนผ่าน ทะเลสาบล็อกเนสส์
สามีภรรยาคู่หนึ่ง กำลังขับรถผ่านทะเลสาบแห่งนี้ ภรรยามองเห็นบางสิ่ง แปลกปลอมขนาดใหญ่ในน้ำ จึงตัดสินใจจอดรถ แล้วลงไปดูเพื่อให้แน่ใจ แต่เมื่อเดินเข้าไปใกล้ กลับพบว่าสิ่งนั้นไม่อยู่แล้ว เรื่องราวนี้ได้ถูกเผยแพร่ ลงหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น โดยพาดหัวข่าวว่า “สัตว์ประหลาด” ขึ้นมาเป็นครั้งแรก
ต่อมาในปีเดียวกัน มีชายในท้องถิ่นคนหนึ่ง ได้ออกมาเปิดเผยว่า ในขณะที่กำลังขี่มอเตอร์ไซค์ เขาพบว่าเนสซีขึ้นมาจากฝั่ง ซึ่งแสงไฟจากหน้ารถ ได้ฉายไปยังตัวของมัน จึงพบว่าเนสซี มีลักษณะเหมือนกับ เพลซิโอซอรัส
ในเวลาต่อมา นั้นมีผู้ถ่ายรูปที่ติดเนสซีได้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นภาพนิ่งและวิดิโอ ซึ่งหลักฐานเหล่านี้ สุดท้ายก็พบว่า เป็นแค่เงาหรือคลื่นน้ำ ที่เคลื่อนไหวอยู่บน ผิวน้ำเพียงเท่านั้น
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 1975 มหาวิทยาลัยเบอร์มิงแฮม ได้ทำการศึกษาเรื่องนี้ อย่างจริงจัง มีการนำเรือที่มี สัญญาณโซนาร์ลงไปสำรวจ บริเวณทะเลสาบแห่งนี้ ผลออกมาว่า คลื่นสัญญาณโซนาร์ มีการสะท้อนพบเงาของ วัตถุลึกลับขนาดใหญ่ ซึ่งมีการเคลื่อนไหวอยู่ใต้น้ำ แต่บางกลุ่มให้ความเห็นว่า อาจจะเป็นเพียง ฝูงปลาธรรมดา ๆ ก็ได้
และมีการพบภาพ ที่จับให้เห็นบางอย่าง มีลักษณะเหมือนกับครีบ โดยวิดีโอภาพชุดนี้ถือว่าเรียกเสียงฮือฮา และมีผู้คนพูดถึงอย่างมาก ในผู้คนสกอตแลนด์ ในเวลาต่อมา มีการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ
เรื่องเล่าเนสซี จากสำนักข่าวบีบีซี มีประชาชนบางกลุ่ม ที่ทั้งเชื่อและไม่เชื่อ หลังจากที่เป็นข่าว จึงมีการเปิดเผยจากทางรัฐบาล ว่าจะออกมา เปิดเผยข้อมูลสำคัญ
โดยรัฐบาลเชื่อว่า เนสซีมีอยู่จริง และมีการระบุให้เนสซี อยู่ในกฎหมายคุ้มครอง และอนุรักษ์สัตว์ป่า ที่คุ้มครองทั้งสัตว์ที่รู้จัก และไม่รู้จักหลายชนิด เมื่อปี 2008 มีแหล่งข่าวรายงานว่า ดาวเทียมกูเกิลเอิร์ธ ได้จับภาพบางอย่าง ที่เชื่อว่าคือเนสซี สัตว์ประหลาด อยู่ในทะเลสาบล็อกเนสส์ ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว พบว่ามันเป็นเพียงเรือ ที่กำลังล่องหาปลา อยู่ในทะเลสาบเท่านั้น
เมื่อเดือนสิงหาคม 2013 มีการเปิดเผยข้อมูลว่า นักสำรวจสาวชาวอังกฤษ สามารถถ่ายภาพของเนสซี ในลักษณะกำลังลอยคอ เหนือผิวน้ำไว้ได้โดยบังเอิญ บริเวณที่พบก็คือ ทะเลสาบวินเดอร์เมียร์ อยู่ฝั่งเหนือของอังกฤษ ที่อยู่ห่างจากทะเลสาบล็อกเนสส์ ไปประมาณ 238 กิโลเมตร
และเมื่อต้นปี 2015 มีชาวประมงออกมาพูดว่า มีการใช้อุปกรณ์โซนาร์ตรวจจับ สภาพของทะเลสาบล็อกเนสส์ และเห็นว่ามีร่องลึกประมาณ 8 ไมล์ อยู่ที่ระดับความลึก 825 – 937 ฟุต
ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ทะเลสาบล็อกเนสส์ ถูกจัดอันดับว่าคือ ทะเลสาบที่มีความลึกอยู่อันดับ 2 ของทั้งประเทศ ในยุคสมัยนั้น อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ว่า คือแหล่งที่อยู่อาศัยของเนสซี
ในเวลาต่อมา ลี้ลับลึกลับหลุดโลก ได้มีการนำโดรน ลงไปถ่ายใต้น้ำ โดยสามารถจับภาพใต้น้ำ ที่อยู่ในระดับความลึกกว่า ทะเลสาบล็อกเนสส์ ซึ่งผลการสำรวจในครั้งนั้น ไม่พบอะไรทั้งสิ้น รวมถึงไม่มีร่องลึก ตามที่เคยอ้างไว้ก่อนหน้านี้ บางคนให้ความเห็นว่า ไม่มีสัตว์ประหลาด หรือ เนสซี ในทะเลสาบแห่งนี้
มีนักวิชาการได้ตั้ง ข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับ เนสซีไว้มากมาย ซึ่งข้อสันนิษฐานหลัก ๆ ที่นักวิชาการหลายคน มีความคิดเห็นตรงกัน มีดังนี้
นักวิชาการให้ความเห็นว่า เนสซีอาจจะเป็น ไดโนเสาร์ในทะเลขนาดใหญ่ เมื่อสมัยก่อนประวัติศาสตร์ เหมือนกับ “อีลาสโมซอรัส” หรือ “เพลซิโอซอรัส” ซึ่งมีข้อมูลมาอ้างอิงได้ว่า ไดโนเสาร์เหล่านี้ เดิมจะอาศัยอยู่ในทะเล ในสมัยประวัติศาสตร์
ในเวลาต่อมา เกิดการเปลี่ยนแปลง ด้านสภาพภูมิศาสตร์ในยุคน้ำแข็ง ส่งผลให้ทะเลสาบล็อกเนสส์เกิดขึ้นมา โดยบรรดาไดโนเสาร์ ที่เคยอาศัยอยู่ ยังคงติดอยู่ในทะเลสาบ เนื่องจากไม่มีอะไร เข้ามารบกวนในสถานที่แห่งนี้ อีกทั้งยังมีแหล่งอาหาร ที่อุดมสมบูรณ์อยู่เสมอ ๆ จึงทำให้ไดโนเสาร์พวกนี้ ยังคงมีชีวิตอยู่ มาจนถึงปัจจุบัน
นักวิชาการบางส่วน มีความคิดเห็นว่า เนสซีอาจจะเป็นเพียง สัตว์ประเภทอื่น ที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบล็อกเนสส์ อย่าง สิงโตทะเล ปลาวาฬขนาดใหญ่ ปลาสเตอร์เจียน ถือว่าคือสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ ที่บริเวณด้านหลัง จะมีโหนกและครีบยื่นออกมา ซึ่งตรงกับหลายคน ที่ได้พบเห็นกล่าวกัน
นักวิชาการบางส่วน มีความเห็นว่า เนสซีอาจเป็นเพียง สภาวะคลื่นนิ่งที่ปรากฏขึ้นบนผิวน้ำ เมื่อมีผู้คนมองเพียงผ่าน ๆ อาจมองได้ไม่ชัดเจน ทำให้เข้าใจผิด และอุปาทานไปเอง ซึ่งคล้ายกับปรากฏการณ์ พญานาคในแม่น้ำโขง หรือบึงโขงหลง ที่อยู่ทางภาคอีสาน
ส่วนนักวิชาการบางส่วน ที่ไม่เชื่อเรื่องนี้เลย ให้ความคิดเห็นว่า ความเป็นจริงแล้วเนสซี คือเรื่องเล่าที่หลอกลวง มีคนแต่งเรื่องนี้ขึ้นมา ทำให้ผู้คนหลงเชื่อกัน เพื่อเป็นจุดที่สามารถ สร้างรายได้ให้กับประเทศ
อย่างไรก็ตาม เรื่องเล่าของเนสซี ก็ยังคงเป็น เรื่องที่ลึกลับ และยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีทั้งคนที่เชื่อ และไม่เชื่อเรื่องราวเหล่านี้ หลายคนมีความพยายาม ต้องการหาความจริง ของเรื่องราวเนสซีต่อไป ซึ่งมันอาจจะมีอยู่จริง หรืออาจจะไม่มีอยู่จริงก็ได้ ยังไม่มีใครสามารถ ไขข้อสงสัยหรือคาดการณ์ได้
หากมองอีกมุมหนึ่ง ว่าเรื่องราวเหล่านี้มีจริง พวกมันคงจะน่าสงสาร อย่างแน่นอน เนื่องจากมนุษย์คงจะสืบค้น เรื่องราวพวกมัน จนเรียกได้ว่า เป็นการเข้าไปคุมคาม ที่อยู่อาศัยของพวกมัน จนทำให้เนสซีรู้สึกถูกรบกวน จนมีการอพยพที่อยู่ที่อื่น ที่ไม่ใช่ทะเลสาบล็อกเนสส์แล้วก็ได้
เรียบเรียงโดย อลิส