เรื่องเล่าผี ลมเพลมพัด ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คนมีของอย่าร้องทัก!!

เรื่องเล่าผี ลมเพลมพัด ของไสยศาสตร์สายดำ

เรื่องเล่าผี ลมเพลมพัด เกิดจากผู้ที่เรียนวิชา ไสยศาสตร์สายดำ ปล่อยของออกมา ในคืนวันพระคืนวันโกน ของที่ปล่อยออกมานั้น ไม่ได้มุ่งหมายทำร้าย เจาะจงใครเป็นพิเศษ หรืออาจจะใช้ ไปเล่นงานคนที่เราไม่ชอบ หรือติดตามคน ที่เป็นเป้าหมาย

แต่เมื่อใดที่เกิดความร้อน ของวิชาที่พวกเขาเรียนมา พวกเขาก็จะปล่อยของ ออกมากับสายลม เพื่อไม่ให้ของนั้น ย้อนกลับเข้าตัว มาทำร้ายตนเองได้ อาจารย์ยอด : รวม ทุก เรื่อง

ดังนั้นหลังจากพระอาทิตย์ ตกดินไปแล้ว คนแก่คนเฒ่า ถึงได้คอยเตือนลูกหลาน ว่าหากใครเรียกใครร้อง หรือได้ยินเสียงดัง แปลกๆผิดปกติ จงอย่าไปทัก จงเมินเฉยเหมือน ไม่ได้ยินอะไร ไม่เช่นนั้นของ ที่ถูกปล่อยออกมา  มันจะพัดพา เข้าตัวเราเอง ทำให้เจ็บป่วย หรือมีอันเป็นไป

เรื่องเล่าผี ลมเพลมพัด เสียงเรียกยามค่ำคืน

ผื่นลมเพลมพัด นี่เป็นเรื่องเล่าของเด็กหนุ่ม คนหนึ่งที่ชื่อป้อม ที่อยู่ต่างจังหวัด ทางภาคอีสาน เขามีพี่ชายคนหนึ่ง ที่เป็นคนเอาแต่ใจ มีนิสัยคล้ายผู้หญิง ชอบพูดอะไรไปโดยไม่คิด ปากร้ายด่าใคร ก็เจ็บแสบไปหมด

ส่วนตัวของป้อมเองนั้น เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดค่อยจา เขามีนิสัยดุดันเหมือนนักเลง แต่มีจิตใจดี ป้อมนั้นเกิดใน วันพุธตอนกลางคืน ทำให้เขาเป็นคน ที่มีเซ้นส์หรือสัมผัสที่ 6 ที่สามารถรับรู้อะไรแปลกๆ ได้ที่คนอื่นไม่สามารถสัมผัสได้

เรื่องเล่า อาจารย์ยอด สนุก ๆ เขามักจะเห็นสิ่งแปลกๆ ที่ไม่สามารถอธิบายได้ อยู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่ง ป้อมได้ไปเยี่ยมตู่ พี่ชายของเขา ที่ได้เรียนอยู่ที่ โรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง ทางภาคอีสาน ในวันพบญาติ ที่โรงเรียนจัดเป็นประจำทุกปี โดยจะมีการแสดง ของนักเรียนในโรงเรียนนี้

เพื่อให้พี่น้องผู้ปกครอง ของนักเรียนได้รับชม ซึ่งวันนั้นก็มีพ่อแม่ ผู้ปกครองของนักเรียน มาอย่างมากมาย และมีการแสดง ที่นักเรียนแต่ละคน ต่างก็แต่งตัว แปลกๆกันทั้งนั้น

ป้อมและตู่ ได้แวะซื้อขนม หน้าทางเข้าโรงเรียน ที่มียายแก่ๆคนหนึ่ง ยืนขายขนมให้กับเด็กๆ อยู่และยายคนนั้นก็พูดขึ้นมาว่า เด็กๆวันนี้เป็นวันพระ อย่าดื้ออย่าซนนะ ถ้าเห็นอะไรแปลกๆ ได้ยินอะไรแปลกๆ หรือมีคนเรียก ก็อย่าไปสนใจ อย่าไปขานรับนะ เพราะว่าวันนี้ เป็นวันปล่อยผี เรื่องเล่าอาจารย์ยอด new

เมื่อตู่ได้ยินดังนั้น ตู่ก็ได้แต่ขำ แล้วถามยายว่า ไปหลอกเด็กให้กลัวทำไม ยายบอกว่าไม่ได้หลอก มันเป็นเรื่องที่ คนโบร่ำโบราณ ได้เล่าต่อกันมาไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ ตู่คิดว่ามันเป็นแค่เรื่องงมงาย แต่ป้อมนั้นเชื่อสนิทใจ อาจารย์ยอด เล่า เรื่อง เทพ

ต่อมาตู่ได้เข้าไป แต่งตัวที่หอพัก เพื่อเตรียมพร้อม สำหรับทำการแสดง ที่ตู่จะต้องขึ้นไปแสดง ซึ่งตอนนั้นที่หอพักมันมืด และเงียบมากเลย ไม่ค่อยมีคนอยู่ เพราะทุกคนต่างไปรวมกัน อยู่ที่หอประชุมของโรงเรียน

เสียงเรียกปริศนา และภาพในกระจก

ขณะที่ตู่กำลังแต่งตัวอยู่นั้น ก็ได้มีเสียงเคาะประตูก๊อกๆๆ ซึ่งตู่คิดว่ามีคนมา ตามให้ไปขึ้นแสดง ตู้จึงตะโกนตอบไปว่า “ยังไม่เสร็จเลย รออีกหน่อยเดี๋ยวค่อยมาใหม่” หลังจากนั้นเสียงก็เงียบหายไป และอีกสักครู่ ก็มีเสียงเรียกชื่อเขาขึ้นมาเบาๆ

ด้วยความที่ตู่ เป็นคนขี้โมโห จึงรู้สึกหงุดหงิด ที่รู้สึกว่ามีคนมาตาม จึงตะโกนออกไปว่า “รู้แล้วน่าจะตามอะไรนักหนา” แล้วก็เดินออกไปเปิดประตู เพื่อที่จะด่า คนที่มาเรียก แต่กลับพบว่า ไม่เจอใครเลย เขาจึงตะโกนด่าไปว่า “อย่ามาแกล้งกัน อย่างนี้นะเดี๋ยวจะโดนดี” 

ไม่นานป้อม ก็ได้รับมอบหมาย ให้ไปตามพี่ตู่ ที่หอพักให้มา ทำการแสดงที่หอประชุม ขณะที่ป้อมกำลังเดินไปตาม ตามพี่ตู่นั้น ก็ได้เห็นพี่ตู่ ขับรถมอเตอร์ไซค์ ผ่านหน้าเขาไป มุ่งตรงไปยังห้องประชุม

แต่สิ่งที่ป้อมเห็นนั้น คือภาพที่สะท้อน จากกระจกของอาคารเรียน สะท้อนให้เห็นว่าพี่ตู่ มีผู้หญิงนั่งซ้อนท้าย รถมอเตอร์ไซค์อยู่ ทั้งที่เมื่อมองไปที่รถ กลับไม่เห็นใคร ซ้อนท้ายอยู่เลย 

ป้อมจึงได้แต่ยืนขนลุก แล้วก็บอกกับตัวเองว่า “เจออีกแล้วเหรอวะเรา” และเดินตามกลับไปที่หอประชุม ป้อมนั้นได้นำเรื่องที่เห็น ไปเล่าให้กับพี่ตู่ฟัง แต่ตู้นั้นจะไม่เชื่อ และคิดว่าป้อม เป็นคนที่ไปแกล้งเคาะประตู และเรียกเขา ตอนที่อยู่ที่หอพัก

ตู่จึงรีบขับรถมอเตอร์ไซค์ กลับไปที่หอพัก ด้วยความโมโห โดยทิ้งให้ป้อมเดินกลับเอง ในขณะที่ตู่ขับรถ ก็ได้มีลมพัด มาอย่างรุนแรง จนทำให้รถของตู่ เสียหลักล้มลง จนได้รับบาดเจ็บ และได้สลบไป

อยากลองดี ก็ต้องเจอแบบนี้

เมื่อป้อมเห็นดังนั้น จึงรีบวิ่งไปดูพี่ตู่ ปรากฏว่าตู้ นั้นไม่ได้เป็นอะไร จากการรถล้ม แค่สลบไปจากการตกใจ แล้วก็มีผู้ใหญ่วิ่งเข้ามา ให้ความช่วยเหลือ พาตัวของตู่ขึ้นรถกู้ภัย เพื่อนำตัวไปส่ง ยังโรงพยาบาล แต่ในขณะที่เหตุการณ์ กำลังวุ่นวาย ป้อมได้สังเกตเห็น ยายแก่ๆที่ขายของ อยู่หน้าโรงเรียน มายืนมุงดูอยู่ กับฝูงชนนั้นด้วย

ขณะที่ทุกคนมีสีหน้าที่ตกใจ ยายขายของคนนั้น กับยิ้มเหมือนพอใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อป้อมเห็นดังนั้น ป้อมจึงได้เดินไป ถามยายคนนั้นว่า มันเกิดอะไรขึ้นหรือครับ ทำไมอยู่ๆพี่ชายผมถึงรถล้ม พร้อมกับเล่าเรื่องที่ป้อมได้เห็น ให้กับยายฟัง

ว่าเขาเห็นมีผู้หญิง ซ้อนท้ายรถมอเตอร์ไซค์ของพี่ชาย แต่เห็นจากภาพที่ สะท้อนในกระจกเท่านั้น ยายหัวเราะแล้วพูดออกมาว่า “เป็นยังไงล่ะเตือนแล้วไม่ฟัง อยากลองดีนัก ก็ต้องเจอแบบนี้แหละ” เมื่อยายพูดจบ ป้อมฉุกคิดได้ว่า สิ่งที่ยายพูดออกมานั้น อาจเป็นเพราะยาย คนนี้นี่แหละ ที่ทำของใส่พี่ตู่ 

เมื่อยายพูดจบ ยายก็เดินจากไป แต่ด้วยความที่ป้อม รู้สึกว่ามันเป็น สิ่งที่ไม่ถูกต้อง จึงเดินตามไปพูดกับยาย ด้วยน้ำเสียงที่ดุดันว่า “ยายใช่ไหมที่เป็นคนทำ กับพี่ชายเขาแบบนี้ เป็นคนทำของใส่ พี่ชายของเขา” แล้วยายก็พูดขึ้นว่า “อยากลองของอีกคนเหรอ”

เมื่อผมได้ยินอย่างนั้น ถึงกับตกใจ เพราะสิ่งที่เขาคิดเป็นเรื่องจริง หรือยายคนนี้ เป็นแม่มดหมอผีจริงๆ แล้วยายก็พูดต่อว่า “ยายนั้นแค่ต้องการบอก ต้องการเตือนดีๆ ไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร และยายก็ไม่ได้ เป็นคนที่ทำของใส่ด้วย เพราะยายเป็นแค่ แม่ค้าขายขนม หน้าโรงเรียนเท่านั้น”

แล้วที่ยายยิ้ม เหมือนพึงพอใจนั้น ก็เพราะว่ายายโล่งอก ที่ไม่เป็นอะไรมาก ไม่ถึงกับชีวิต ยายเล่าให้ฟังต่อไปว่า  ที่แถวนี้นั้นมีสำนักเข้าทรงเจ้า อยู่เยอะแยะเต็มไปหมด และมีคนที่เล่นคุณไสยมนต์ดํามากมาย หลายคนที่เจอกับ เหตุการณ์แบบนี้ มักจะบาดเจ็บสาหัส ถึงขั้นเสียชีวิต 

อาจารย์ยอด เล่าเรื่อง เมื่อตู่พี่ชายของเขาตื่นขึ้นมา ก็ได้เล่าให้ฟังว่า ในขณะที่เขาขับ รถมอเตอร์ไซค์อยู่นั้น เขาได้ยินเสียง เหมือนคนมากระซิบ ที่ข้างหูเรียกชื่อเขา เขาจึงขานรับ และหันกลับไปดู จนรถเกิดเสียหลักล้มนั่นเอง

นี่ถือว่าเคราะห์ดี ที่ไม่เกิดเหตุการณ์ ร้ายแรงอะไรกับเขา พ่อและแม่จึงพาเขา ไปรดน้ำมนต์และขอพรพระ ให้ปลอดภัยจบ เรื่อง เล่า อาจารย์ยอด ล่าสุด วัน นี้ 2564