เราอยู่ในยุคที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้าทำให้สงสัยไม่ได้ว่า เมืองลึกลับ ที่เขาได้สร้างเอาไว้ที่ใต้ดินนั้นเขาใช้อุปกรณ์อะไรในการสร้างซึ่งบางครั้งเราก็จินตนาการไม่ออก แต่พอได้เห็น หนังลึกลับ Netflix และ หนัง 4 king ภาค 2 พวกเราถึงกับร้องอ๋อขึ้นมาทันที ในหนังบางเรื่องอย่าง ตามหาเมืองลึกลับ Netflix ก็ได้นำเอาไอเดียการสร้าง สถานที่ลึกลับหรือ เรื่องลึกลับ มาตีแผ่ให้เราได้ทราบกัน บางคนชอบอ่านเรื่องลึกลับเพราะมักจะฝันว่าได้ทองเยอะมาก อาจจะเป็นเพราะใจคิดถึงเรื่องความลี้ลับและเรื่องล่าสมบัติมากไป
อย่างที่เราได้เห็นตัวอย่างการขุดและเจาะเพื่อให้เกิดเป็นเครือข่ายใต้ดินที่ได้มีการบันทึกไว้แต่ละที่ ว่าเป็นฝีมือมนุษย์ ไม่ใช่แค่สร้างเมืองที่พักเท่านั้น แต่ยังสามารถเอาพวกสิ่งอำนวยความสะดวกไปไว้กันได้แบบครบครันอย่างที่มีการ พบเมืองลับแลประเทศลาว ซึ่งในบทความนี้จะพาท่านได้ไปรู้จักกับ ดินแดนลึกลับ กันนะคะ
เมืองลึกลับ กับการตั้งถิ่นฐานที่ถือเป็นเรื่องราวความอัศจรรย์ของประวัติศาสตร์ ดินแดนลึกลับ
หากเราย้อนกลับไปในสมัยโบราณก่อนมีการ สำรวจเมืองลึกลับ เราจะต้องทึ่งกับความคิดที่สุดแสนมหัศจรรย์ เพราะมีเมืองที่ถือว่าเป็นเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่น่าจดจำไม่ว่าจะเป็นการสร้างเพื่อใช้หลบภัยหรือสร้างอาคารใต้ดินให้มีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน กลายเป็นสถานที่ที่ให้มนุษย์สามารถไปตั้งถิ่นฐานได้อีกด้วย
ซึ่งวันนี้เราจะพาทุกท่านไปเยี่ยมชมเมืองลึกลับใต้ดินในประวัติศาสตร์ ที่วิศวกรในปัจจุบันก็ยังงงว่าคนโบราณในยุคนั้น เขามีวิธีการคำนวณในการสร้าง ให้ออกมาแล้วใช้งานกันแบบปลอดภัยได้อย่างไร และจะมีที่ไหนกันบ้างวันนี้ ตามเรามาเลยนะคะรับรองได้ว่าต้องตื่นตาตื่นใจ สมราคาเมืองที่ขึ้นแท่นเป็นเมืองลึกลับที่ไม่แพ้ หมู่บ้านลึกลับในประเทศลาว หรือ หมู่บ้านลึกลับ เชียงใหม่ pantip แต่ได้รับการยอมรับในระดับโลกกันเลยทีเดียวค่ะ
เมืองใต้ดินที่กลายเป็นเมืองลึกลับในประวัติศาสตร์มีที่ไหนบ้าง?
1.ที่แรกเราอยากจะแนะนำคือ Petra เมืองนี่เขาถูกยกให้เป็นมรดกโลกกันเลยทีเดียว ตั้งอยู่ที่หุบผา อารยธรรมโบราณในจอร์แดน ซึ่งเป็นมหานครที่เคยหายสาบสูญกว่า 7 พันปีเพราะว่าเป็นเมืองหินที่ซ่อนตัวอยู่อย่างลึกลับในเทือกเขาวาดี มูซา คนส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อของหุบเขาโมเสส มีอยู่ในสมัยเมื่อพันปีก่อนคริสตกาล
เชื่อว่าชุมชนแห่งความลึกลับนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาสมัยของชาวเมือง นาบาเธียน ซึ่งใครๆก็รู้ว่าพวกเขาเป็นพวกชนเผ่าที่เร่ร่อน และเมื่อเดินทางมาจนถึงตรงนี้ก็คิดจะปักหลักกันอยู่ที่นี่ทำให้เกิดไอเดียการสร้างที่พักอาศัยขึ้นมา ด้วยการสร้างบ้านจากการสกัดหินผา เข้าไปเป็นช่องเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย
แม้ว่าในปัจจุบัน เมืองลึกลับในตำนาน จะมีแต่ความแห้งแล้ง เพราะว่าอยู่ท่ามกลางทะเลทรายที่ร้อนมาก แต่ด้วยเป็นเส้นทางที่มีผู้คนเดินทางมาก็เลยกลายเป็นเส้นทางการค้าที่ถือว่าเป็นหนึ่งในสองเส้นทางหนึ่งที่ใหญ่ที่สุดของโลกเลยทีเดียวค่ะ
2.สถานที่ลึกลับต่อมาคือ Beijing Underground City สถานที่แห่งนี้เกิดจากในช่วงทศวรรษที่ 1960-1970 มีประชากรที่หนีภัยจากนิวเคลียร์ ตอนนั้นรัฐบาลเลยสร้างที่หลบภัยขนาดใหญ่ แต่สร้างให้อยู่ใต้เมืองหลวงอย่างมหานครปักกิ่ง ซึ่งเมืองนี้ใช้แรงงานในการขุดล้วนๆ
ในตอนนั้นมีเป้าหมายจะให้สามารถหลบภัยได้ถึง 1 ล้านคน และจะต้องกินเวลาประมาณ 4 เดือนเต็ม และในที่สุดก็ได้เมืองที่ยกให้เป็นเมืองลึกลับแห่งนี้ มีห้องและอุโมงค์ใช้เพื่อปกป้องการรั่วซึม เป็นการสร้างที่พักใต้ดินกินพื้นที่ถึง 10 ตารางกิโลเมตร ทีเดียวนะคะ ซึ่งแน่นอนว่าไอเดียพี่จีนเขาไม่ทำเล็กอยู่แล้ว
จากการ สำรวจเมืองลึกลับ ทำให้เราทราบถึง ดินแดนลึกลับ ในเวลาต่อมาพบว่า ทางเดินบางเส้นทางของเมืองแห่งนี้มีขนาดเท่ากับรถยนต์ผ่านได้แบบสบาย ไม่น่าเชื่อว่านอกจากจะมีที่พักแล้ว เขายังมีโรงเรียน โรงพยาบาล รวมไปถึงยุ้งฉางไว้สำหรับเก็บสะสมอาหารและมีลานสเก็ตน้ำแข็งด้วยนะคะ นอกจากนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ขนาดใหญ่ที่จุดคนดูได้ถึง 1,000 คนอีกต่างหาก
ว่ากันว่าเจ้าหลุมหลบภัยแห่งนี้ไม่เคยได้ใช้งานจริงเลย แต่ทางรัฐบาลก็ไม่ได้ทำลายแต่อย่างใด ยังคงให้เจ้าหลุมนี้ซ่อนตัวอยู่ใต้เมืองหลวงที่สำคัญต่อไปซึ่งต่อมาได้ถูกปิดตายห้ามเข้าไปเด็ดขาดเพิ่งจะมาเปิดให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้เองค่ะ
3.อีกเมืองที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้คือ Lalibela ว่ากันว่าสมัยของกษัตริย์เอธิโอเปียพระองค์หนึ่งในช่วงศตวรรษที่ 12 พระองค์เป็นผู้ที่เคร่งศาสนาอย่างมาก โดยมีรับสั่งให้สร้างโบสถ์ไว้ถึง 11 แห่งและตั้งชื่อที่นี่ว่ากรุงเยรูซาเล็มใหม่ที่ใช้วิธีการสร้างจากบนลงล่างและตามที่เราได้เห็นจากรูปภาพว่าโบสถ์เหล่านั้นใช้หินที่สกัดออกมาจากหินภูเขาไฟ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จมันคล้ายกับว่าโบสถ์เหล่านั้นมันงอกออกมาจากใต้พื้นดิน
จากการ สำรวจเมืองลึกลับ มีการคนเคยบอกว่าอาคารที่โดดเด่นที่สุดของที่นี่คือโบสถ์ที่เป็นรูปไม้กางเขน เพราะว่าได้แกะจากหินก้อนมหึมาที่อยู่ในคูน้ำลึกถึง 30 เมตรและยังสร้างทางเดินที่มีการเชื่อมต่อได้ทั้งหมดของอาคารต่างกลายเป็นเครือข่ายใต้ดิน และเป็นเหมือนถ้ำที่ถูกซ่อนอยู่ใต้ดิน
จากประวัติของการสร้าง เมืองลึกลับในตำนานได้บอกไว้ว่าใช้เวลาในการสร้างยาวนานถึง 24 ปี แต่มีนักประวัติศาสตร์ออกมาบอกว่าไม่น่าจะใช่เพราะแต่ละสเต็ปของการสร้างน่าจะใช้เวลามากกว่านั้นมาก และในปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่เปิดให้พวกต้องการแสวงบุญเดินทางไปเยี่ยมชมปีหนึ่งหลักแสนคนเลยทีเดียวค่ะ
สรุปแล้ว เมืองลึกลับ ที่เชิญชวนให้ไปเยือนให้ได้สักครั้ง
และเมื่อได้อ่านมาจนถึงตรงนี้ทำให้เราทราบว่า เมืองลึกลับในตำนาน เหล่านี้มีประวัติความเป็นมาแต่ละที่ล้วนแปลกและไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่มักจะสร้างเพื่อช่วยมวลมนุษย์มากกว่าและเมื่อมีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีที่มากขึ้นทำให้ที่เหล่านั้นถูกทิ้งร้างและยังไม่ได้รับการบูรณะ
ซึ่งแต่ละ เมืองลึกลับ ที่เราได้นำมาให้ทุกท่านได้รู้จักกันนี้มีเรื่องราวที่ชวนให้ติดตามซึ่งต่อมากลายเป็นความลึกลับและสืบค้นหาความจริง จนกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีคนเก็บเอาไป ฝันเห็นเมืองลึกลับ ก็มีนะคะ