หมึกยักษ์ Kraken อสูรร้าย ใต้มหาสมุทร สัตว์ทะเลลึกลับ ที่ชาวเรือต้องสะพรึง
หมึกยักษ์ Kraken เป็นตำนานของ เจ้าอสูรร้าย ใต้ท้องทะเล ที่ชาวเรือทั้งหลาย ต่างก็หวาดกลัว และเฝ้าระวัง ด้วยตัวของมัน ที่มีขนาดใหญ่ เเละพร้อมจะกลืน กินเรือทั้งลำ ลงไปในคอ ทำให้มันกลาย เป็นหนึ่งในตำนาน ที่ผู้มีอาชีพ เดินเรือเป็นประจำ เล่าต่อกันมา จากรุ่นสู่รุ่น
คราเคนคืออะไร คราเคนเป็น ปลาหมึกยักษ์ที่ มีขนาดใหญ่ อาศัยอยู่ภายใต้ ท้องทะเลลึก ของฝั่งทางเหนือ โดยมันจะโจมตี เรือหลาย ๆ ลำที่ได้เดินทาง ผ่านน่านน้ำที่ มันอาศัยอยู่ ด้วยความที่มัน มีขนาดของตัว ที่ใหญ่มาก ๆ มันจึงสามารถ ใช้หนวดบีบรัด เรือทั้งลำนั้น ให้เเหลกกระจุย และกินลูกเรือ เข้าไปได้ทั้งหมด ซึ่งตัวมันเอง ก็ได้ขึ้นชื่อ ว่าเป็นตำนาน แห่งท้องทะเล ที่ไม่ว่าใคร หากต้องเดินทาง ผ่านท้องทะเล ก็ต้องระวัง มันไว้ให้ดี
หมึกยักษ์ Kraken อสูรกาย ในตำนาน ที่ยังมีชีวิต
คราเคน ประวัติ ของมันถูกบันทึก เป็นหลักฐานครั้งแรก ที่ประเทศนอร์เวย์ มีการเล่าว่า เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดใหญ่ เทียบเท่าเกาะลอยน้ำ มีขนาดประมาณ 800 เมตร ปรากฏในหนังสือ The Natural History of Norway ที่เขียนขึ้นโดย Erik Ludvigsen Pontoppidan โดยนักวิทยาศาสตร์ เชื่อว่าคราเคน เป็นปลาหมึกยักษ์ ชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า หมึกโคลอสซัล
เหล่านักเดินเรือ โดยเฉพาะในแถบ ซีกโลกทางเหนือ มีความหวาดกลัว ต่อสัตว์ประหลาด ชนิดนี้เป็นอย่างมาก เพราะในหนังสือ ได้เขียนไว้ว่า มันตัวใหญ่เท่า กับเกาะขนาดย่อม เฉพาะช่วงลำตัว ก็ยาวกว่าครึ่งไมล์ ทั้งยังเคลื่อนไหว แบบเงียบเชียบ กว่าจะรู้สึกตัว หนวดยักษ์ของมัน ก็เข้าโจมตี ได้สำเร็จแล้ว และสามารถจมเรือ ได้เพียงไม่กี่นาที
เรื่องราวของ สัตว์ประหลาด ในทะเลลึก ที่เคยปรากฎมา คราเคนยักษ์ ดูเหมือนว่าจะ ใกล้เคียงความจริง เพราะมีอีกสายพันธุ์ ที่ชื่อ อาร์คิเทอูธิส หรือที่เรียกกันว่า ว่าปลาหมึกยักษ์ (Giant Squid) ที่มีตัวตน อยู่บนโลกนี้จริง ๆ
แม้ว่าจะไม่ได้ ตัวใหญ่เท่าเกาะ เหมือนในตำนาน แต่ก็ถือได้ว่า ตัวใหญ่มาก ๆ มีขนาดพอ ๆ กับรถบัสทีเดียว ความยาวหนวด 30-40 เมตร มีฟันแหลมคม เป็นจะงอยที่ปาก มีลูกนัยน์ตา ขนาดฟุตครึ่ง
น้ำหนักโดยรวม อาจหนักถึง 2-3 ตัน กินคนได้สบาย ๆ อีกทั้งยังมี นิสัยที่ดุร้าย ตามธรรมชาติด้วย เพียงแค่ไม่มีใคร ได้เจอตัวจริง ของมันบ่อยเท่านั้น
อสูรร้าย คราเคน มีอยู่จริงหรือไม่ ?
ประวัติเล่าว่า เคยมีชาวประมง เห็นเมื่อปี ค.ศ. 1878 ว่ามีคราเคน ลอยอยู่ผิวน้ำ และกำลังใกล้ จะหมดลมหายใจ พวกเขาลากคราเคน เข้ามาวางตากแดด ไว้บนชายฝั่ง และสุดท้ายมัน ก็ตายลงไป
ซึ่งคราเคนที่ ชาวบ้านได้พบ ในคราวนั้นมี ความยาวถึง 20 ฟุต หนวดยาว 35 ฟุต เขี้ยวแหลมคม ที่หนาถึง 4 นิ้วเลยทีเดียว
เมื่อปี ค.ศ.1930 มีการเล่าขาน ถึงเรื่องราวของ ลูกเรือบรรทุก ที่เจอเข้ากับ ปลาหมึกยักษ์ ในตํานาน ซึ่งลูกเรือลำนี้ กำลังเดินอยู่ บนเรือขนาดใหญ่ ที่บรรทุกน้ำมัน สัญชาตินอร์เวย์ ซึ่งหนักถึง 15,000 ตัน เรือบรรทุกลำนี้ ได้ถูกคราเคน พุ่งเข้าโจมตี มากถึงสามครั้ง
โดยบรรดาลูกเรือ ต่างเล่ากันว่า เจ้าหมึกคราเคน พยายามว่ายน้ำ ตามมาใกล้เรือ และใช้หนวดที่ มีความยาวมาก ๆ มาพันรอบเรือ แต่โชคดีที่ ใบพัดของเรือ ได้หมุนไปฟัน โดนหนวดมันเข้า มันจึงได้คลาย หนวดที่รัดเรือไว้ และว่ายน้ำหนี ไปในทะเล
ภายหลังจากนั้น ในปี ค.ศ. 1960 มีเจ้าหน้าที่ ประภาคารแห่งหนึ่ง ในแอฟริกาใต้ ได้มองเห็น คราเคน ของจริง และปลาวาฬสเปิร์ม กำลังต่อสู้กัน การต่อสู้ครั้งนั้น คราเคนได้เข้า โจมตีปลาวาฬ สเปิร์มอย่างหนัก มันใช้หนวดรัด ลำตัวของเจ้าวาฬ ส่วนปลาวาฬก็ใช้ ปากของมันกัด หนวดของคราเคน การต่อสู้ยืดเยื้อ ไปกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนจะจบลง ด้วยหมึกคราเคน เป็นฝ่ายชนะ
อีกหนึ่งบันทึก ที่น่าสนใจ คือในสมัย สงครามโลกครั้งที่สอง มีบันทึกว่า เจ้าคราเคนนั้น ทำให้เรือของ ประเทศอังกฤษ จมทะเลไป สองลำแถว ๆ เกาะมัลดีฟ แล้วมันก็จับ ทหารบนเรือ ของทั้งสองลำ มากินจนหมด ถือเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่มีจริงบนโลกใบนี้
หมึกคราเคน กับการพิสูจน์ ทางวิทยาศาสตร์
ตำนานความลึกลับ และโหดร้ายของ ปลาหมึกยักษ์ คราเคนตัวนี้ ได้มีการจัดตั้ง กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ เพื่อทำการศึกษา เรื่องนี้อย่างจริงจัง ในเดือนกุมภาพันธ์ 1999 หลังจากที่กลุ่ม นักวิทยาศาสตร์ จากสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ ได้ทำการวิจัย หมึกยักษ์อยู่เป็น เวลาถึง 30 วัน ก็มีข้อสรุป ออกมาได้ว่า
มันชอบอาศัย อยู่ในน้ำลึก ตรงจุดที่มี อุณภูมิต่ำมาก ๆ และมันจะไหลไป ตามกระแสน้ำ สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้มัน มีความดุร้าย คือเมื่อมันไหล ไปเจอกับน้ำอุ่น มันจะเกิดปัญหา และจำเป็นต้อง ลอยบนผิวน้ำ เป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเครียด และอาจหงุดหงิดได้
สังเกตได้จากการ ที่มีผู้พบเห็น การโจมตีของมัน มักจะเป็นบริเวณ ที่กระแสน้ำเย็น และกระแสน้ำอุ่น ไหลมาตัดกัน ทำให้หมึกยักษ์ ปรับตัวไม่ทันนั่นเอง