วัดศรีชุม อยู่ที่ไหน วันนี้เราจะพาทุกท่านเดินทาง ไปที่จังหวัดสุโขทัยเพื่อไปย้อนรอย ตำนานวัดศรีชุม และกราบ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่กลายเป็นที่เล่าขานว่าเป็น พระพูดได้ เนื่องจากที่นี่ เป็นวัดเก่าแก่ที่ได้ถูกบันทึก ให้เป็นโบราณสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งของอุทยานประวัติศาสตร์ เมืองสุโขทัย และแน่นอนว่าจะต้องมีความลึกลับมหัศจรรย์ไม่แพ้ สามเหลี่ยมเบอร์มิวดา ที่ได้สร้างออกมาเป็น ซีรีส์สืบสวน ลยทีเดียว
อันที่จริงอุทยานประวัติศาสตร์ เมืองสุโขทัย ก็ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยว ทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ และยังถือว่าเป็นเมืองที่สำคัญของประเทศเราอีกด้วย เพราะนอกจากจะได้ขึ้นทะเบียน เป็นมรดกโลกกับยูเนสโก้ด้วยแล้ว ในแต่ละเทศกาลก็จะมีนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ แวะเวียนมาเยี่ยมชมและกราบบูชา พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ไม่ได้ขาดค่ะ
ตำนานวัดศรีชุม กับมนต์เสน่ห์แห่งศิลปะและสถาปัตยกรรมเก่าแก่
เราปฏิเสธไม่ได้ว่า วัดศรีชุม จุดเด่น คือมีมนต์เสน่ห์ที่เต็มไปด้วยศิลปะ และยังคงไว้ซึ่งสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่มีมาอย่างยาวนานหลายศตวรรษ ทำให้ที่นี่ก็เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ที่น่าสนใจอีกแห่ง เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งวัด ที่เป็นไฮไลท์ของเมืองมรดกโลกอีกด้วยค่ะ
วัดศรีชุมเป็นที่ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางมารวิชัยองค์ใหญ่ ที่มีขนาดขององค์พระคือหน้าตักกว้าง 11.30 เมตร และสูงจากฐานไปจนถึงยอดคือ 15 เมตรและพระพุทธรูปพระองค์นี้มีพระนามว่า พระอจนะ ซึ่งความหมายก็คือ เป็นผู้ไม่หวั่นไหว แถมยังเป็นที่รู้จักกันว่าเป็น พระพูดได้
วัดศรีชุม กับ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ พูดได้มีจริงใช่หรือไม่?
อย่างที่เราก็ทราบกันดีว่า วัดนี้เขาเป็นศาสนโบราณสถาน ที่อยู่ในเขตอุทยานประวัติศาสตร์ ของจังหวัดสุโขทัย และได้มีการสันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในรัชสมัย ของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และเรื่องนี้ได้มีปรากฏในศิลาจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 พร้อมกับฝาผนังอุโมงค์ที่มีภาพเขียนเก่าแก่ ซึ่งมีอายุมากเกือบ 700 ปี
นอกจากนี้ก็ยังผนังของแผ่นหินชนวน ยังมีการสลักภาพลายเส้น ที่ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องชาดกต่างๆ จำนวน 50 ภาพซึ่งได้มีติดไว้ให้ชมกันอย่างต่อเนื่อง และถือได้ว่าสิ่งนี้กลายเป็นงานจิตรกรรมไทยที่เก่าแก่ที่สุด
ภายในวัดแห่งนี้ก็ยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย ที่เป็นที่เล่าขานกลยเป็นตำนานของความศักดิ์สิทธิ์ ทำให้เกิดเป็นมนต์เสน่ห์ที่น่าหลงใหล จนกลายเป็นสิ่งเชิญชวนให้บรรดานักท่องเที่ยว ให้เข้ามาเยี่ยมชม พร้อมกับมากราบสักการะไม่ขาดสายอีกด้วยค่ะ
ที่มาที่กลายเป็นตำนานของ พระพูดได้
วัดศรีชุม ความสําคัญ คือมีตำนานเล่ากันต่อๆ มาว่า ครั้งที่ตอนสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ทรงยกทัพไปเพื่อปราบกบฏ ในเมืองสวรรคโลก ซึ่งพระองค์ได้มีการชุมนุมกันที่วัดแห่งนี้ ว่าการรบครั้งนี้จะต้องมีการวางแผนกันอย่างไร เพราะว่ามันเป็นการรบกับคนไทยด้วยกัน ทำให้เหล่าทหารหมดกำลังใจ ในการรบครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ในที่สุดองค์พระนเรศวร ได้มีการวางแผนเพื่อสร้างขวัญและกำลังใจ ให้กับกองทัพ ด้วยการให้ทหารนายหนึ่ง ต่อบันไดขึ้นไปทางด้านหลังของพระพุทธรูป และเปล่งเสียงออกมาให้กำลังใจ แก่เหล่าทหารกล้าเหล่านั้น และนี่ก็เลยกลายเป็นตำนาน วัดศรีชุม พระพูดได้ และนอกจากวัดนี้จะเป็นสถานที่ศักดิ์แล้ว ก็ยังได้มีการจัดให้เป็นที่ถือน้ำพิพัฒน์สัตยาด้วยค่ะ
นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ที่นี่ยังมีตำนานเกี่ยวกับอุโมงค์ลับของวัดนี้ ที่ไม่ว่าจะเป็นนักประวัติศาสตร์ของท้องถิ่น หรือว่าชาวบ้านมีความเชื่อกันว่า วัดแห่งนี้มีอุโมงค์ที่สามารถทะลุเชื่อมต่อไปยังเมืองเก่าอย่างศรีสัชนาลัย วัดทุ่งยั้ง ผ่านไปยังอุตรดิตถ์ จนถึงเมืองลับแลโน้นเลยค่ะ ซึ่งนักโบราณคดีที่เคยมุดไปสำรวจมาแล้ว บอกว่ายังไม่สุดอีกต่างหาก
ต่อมาตำนานแห่งอุโมงค์นี้ ก็กลายเป็นกระแสฮือฮาอย่างมาก ทำให้ปัจจุบันทางวัดต้องติดกรงเหล็กและโบกปูนทับ เพื่อไม่ให้ใครผ่านเข้าไป ทางด้านนายสมชาย เดือนเพ็ญ ท่านเคยดำรงตำแหน่งปลัดเทศบาลตำบลในเมือง และยังเป็นผู้ทรงคุณวุฒิที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับจังหวัดมรดกโลกทางวัฒนธรรม ได้บอกว่า บนเพดานอุโมงค์นี้ มีแผ่นหินขาวขนวนได้สลักภาพลายและเรื่องราวชาดกที่เก่าแก่เป็น 700 ปี ที่สร้างขึ้นพร้อมกับตำนาน พระพุทธรูปพูดได้อีกด้วยค่ะ
สรุปแล้ว ตำนานวัดศรีชุม และอุโมงค์ที่มีความยาวอย่างมากยังคงเป็นปริศนาที่รอคำตอบ
มีนักประวัติศาสตร์ท้องถิ่นอย่าง อย่างอดีตครูในโรงเรียนไกรในวิทยาคม รัชมังคลาภิเษก ที่เคยได้รับรางวัลคุณาธร ปี 2555 ได้บอกว่าตำนานของอุโมงค์แห่งวัดศรีชุมนี้ ท่านมองว่าเป็นเรื่องราวที่เป็นการแสดงให้เห็น ถึงการมีสัมพันธ์อันดีระหว่างเมืองเก่าของ เมืองสุโขทัย และเมืองเก่าอย่างศรีสัชนาลัย รวมไปถึงเมืองเก่า ทุ่งยั้ง ที่ต้องได้พึ่งพากันตอนมีศึกสงคราม
ทำเอาพวกอยากรู้อยากเห็นหลายคน อยากจะทราบว่ามันจะมีความยาวเหมือนกับอุโมงค์ กู๋จี ที่เวียดนามหรือไม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่มีใครกล้ายืนยัน แต่ว่าก็มีนักโบราณคดีที่เคยลงไปที่อุโมงค์ฝั่งขวากันมาแล้ว ยืนยันว่าเมื่อเข้าไปก็จะกลายเป็นห้องโถงกว้าง แต่มีงูจงอางขวางอยู่ทำให้ไม่กล้าเข้าไป ทำให้ไม่ทราบได้ว่าอุโมงค์แห่งนี้จะมีความลึกขนาดไหน เพราะตอนที่เข้าไปนั้นอุโมงค์ได้มีการพังและถล่มอยู่ก่อนแล้ว
ทำให้ปิดเรื่องราวของ ตำนานวัดศรีชุม เกี่ยวกับอุโมงค์ไว้ให้คนรุ่งหลังได้มีการจินตนาการกันต่อไปว่าสรุปแล้วมันจะเป็นแค่ทางเชื่อมเพื่อใช้เป็นช่องทางการหลบหนีข้าศึกหรือไม่ค่ะ