ความจริงในโลกของเรานี้ก็มีทั้งผืนดินและผืนน้ำและรู้หรือไม่ว่ายังมีการ ตามหาเมืองลึกลับ ที่เคยเป็นที่อยู่อาศัยของบรรดาสิ่งมีชีวิตอีกหลากหลายชนิด ในบทความก่อนหน้าเราได้เคยนำเอาบทความที่เกี่ยวกับ เมืองลึกลับ ไดโนเสาร์ และ หนังลึกลับ พากย์ไทย แต่บอกเลยนะคะว่าเมืองลึกลับที่เราจะได้นำเอามาเล่าให้ทุกท่านได้ทราบวันนี้ จะมีความแตกต่างจากบทความก่อนๆ อย่างแน่นอนค่ะ เพราะเป็นสถายนที่ลึกลับที่บางคนเอาเก็บไปฝันจน ฝันเห็นแหวนทอง
ความจริงแล้วโลกใบนี้เกิดมาหลายพันล้านปีแล้วนะคะ และแน่นอนว่าในอดีต ก็ต้องมีอารยธรรมและต้องมีเมืองที่มีความเจริญรุ่งเรืองอย่าง แอตแลนติส แต่ได้ล่มสลายไปแล้วก็มี ที่ไม่แน่ว่าอาจจะเกิดมาจากภัยธรรมชาติหรือที่สำคัญที่สุดอย่างฝีมือมนุษย์ ซึ่งบางอารยธรรม ก็หายสาบสูญอย่างจมอยู่ใต้ท้องทะเลอย่าง เมืองใต้น้ำ ไทย ที่ในปัจจุบันก็ยังคงหลงเหลือเศษซากไว้ให้เราได้เห็น
ตามหาเมืองลึกลับ ของไทยที่เพิ่งจะขึ้นทะเบียนไม่นานมานี้ขึ้นแท่นเมืองดังไม่แพ้ เมืองใต้น้ำ ไทย
ในบทความนี่เราอยากจะพาทุกท่านให้ไปรู้จักเมืองโบราณแต่ไม่ใช่เมือง แอตแลนติส นะคะแต่เป็นเมืองที่เพิ่งจะได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน ในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพซึ่งพวกชาวบ้านมักจะเรียกกันว่าปรางค์ศรีเทพ ซึ่งเมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบล ศรีเทพ อำเภอศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์
ซึ่งก่อนหน้าเมืองนี้มีชื่อเก่าว่า เมืองอภัยสาลี ซึ่งต่อมา กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เคยเสด็จไปรับราชการแถวมณฑล เพชรบูรณ์ และทรงตั้งชื่อให้ใหม่ว่า เมืองศรีเทพ และเมืองนี้เขามีพื้นที่ทั้งหมดถึง 2889 ไร่ซึ่งจะมีทั้งเมืองรอบนอกและเมืองด้านใน และเมืองทางด้านนอกก็จะหมายถึงส่วนที่เป็นโบราณสถานที่อยู่นอกเขตอุทยาน และเมืองด้านในก็คือเมืองที่อยู่ในอุทยานที่ประกอบไปด้วย ปรางค์ศรีเทพ ปรางค์สองพี่น้อง และส่วนของเขาคลังใน
เมืองศรีเทพที่เป็นสถาปัตยกรรมแบบขอมที่มีความต่างจากเมือง แอตแลนติส
เมืองนี้เขาได้รับอิทธิพลมาจากขอม และเป็นศิลปะที่ผสมผสานกันกับศิลปะทวารวดี ที่ได้สร้างขึ้นในสมัยของขอมยังเรืองอำนาจอยู่ ทำให้เมืองศรีเทพนี้มีเอกลักษณ์ที่เฉพาะตัวอย่างมาก นั่นก็เพราะว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีความเจริญสูงสุดของสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม
นอกจากนี้ยังมีปรางค์สองพี่น้อง ทำให้คนแถวนั้นก็จะเรียกปรางค์องค์พี่ ปรางค์องค์น้อง ซึ่งปรางค์ทั้งสององค์นี้เป็นศิลปะแบบขอมปา และคนที่ยังไม่เคยมาอาจจะเข้าใจผิดได้ว่าปรางค์สองพี่น้องนี้คือปรางค์ศรีเทพ สำหรับคนที่อยากจะเดินทางมาเพื่อเยี่ยมชมที่นี่ควรจะมาในฤดูหนาวนะคะ เพราะว่าจะได้ไม่ร้อนมาก แถมยังทำให้รู้สึกถึงสายลมที่เอื่อยๆ พัดผ่านต้นหญ้าสวยงามมาก
สำหรับตัวพระปรางค์ยังมีความคงทนและแข็งแรง แต่บอกเลยว่ามีความลึกลับทำให้ผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเกิดความอยากจะค้นหาขึ้นมา
ตำนานความลึกลับอย่าง เมืองใต้น้ำในตำนาน ของปรางค์ศรีเทพ ที่เทียบชั้นได้แน่นอนกับ เมืองใต้น้ำ ไทย
มีตำนานความลึกลับไม่ได้แพ้ เมืองใต้น้ำ นิยาย คือเมื่อก่อนปรางค์แห่งนี้มีป่าขึ้นเต็มไปหมด และจะมีช่องทางหนึ่งที่ไม่ใช่เป็นทางเดินอย่างเป็นทางการของที่นี่ และเคยมีเรื่องเล่าว่าในเวลากลางคืนที่เป็นวันพระใหญ่จะมีเสียงม้าศึกวิ่ง อย่างพวกเสียงม้าร้องเต็มไปหมดคล้ายกับกำลังมีการรบและทำศึกกัน ซึ่งคนเฒ่าคนแก่เล่าให้ฟังว่าไม่มีใครกล้าออกไปดู เพราะว่าสมัยนั้นยังไม่มีไฟฟ้าใช้เหมือนในปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีเสียงฆ้องที่มีความดังก้องไปหมดในองค์พระปรางค์อย่าง เมืองใต้น้ำ ในหนัง เลยทีเดียวซึ่งในตอนนั้นไม่มีใครกล้าที่จะออกจากบ้านเพื่อมาดู ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ อารมณ์ใกล้เคียงกับ นครแอตแลนติส เพียงแต่แอบมองตามซอกประตู ก็เห็นว่ามีผู้ชายสมัยก่อนที่เป็นคนรูปร่างสูงใหญ่ประมาณ 8 ศอกเดินตรวจตราคล้ายมีการเดินเวรยามกันในเวลากลางคืน นอกจากนี้ยังมีเรื่องเล่าที่ถือว่าเป็นความลึกลับใกล้เคียงกับ เมืองใต้น้ำ นิยาย อีกมากด้วยค่ะ
ศรีเทพนั้นเป็นเมืองโบราณที่มีขนาดใหญ่ ซึ่งได้มีการค้นพบหลักฐานทางโบราณคดี ว่าเป็นสถานที่เกิดก่อนสมัยประวัติศาสตร์ที่อายุไม่น้อยกว่า 2000 ปีเลยทีเดียว และสิ่งที่ค้นพบก็จะเป็นประเภท โครงกระดูกมนุษย์ ภาชนะดินเผา และพวกเครื่องมือเครื่องใช้รวมไปถึงพวกโลหะและเครื่องประดับ
ซึ่งมีการพัฒนาการต่อมาจนถึงสมัยทวารวดีซึ่งเป็นวัฒนธรรมของเขมร ในที่สุดก็ถูกทิ้งร้างไป ตั้งแต่ยังคงเป็นเมืองหรือว่าชุมชนขนาดใหญ่แต่ลดขนาดลงมาเรื่อยๆ จนเป็นชุมชนเล็กๆ และถูกซ่อนตัวอยู่ในป่าเขา นานเป็นร้อยๆ ปี จนถึงเวลาที่กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จมาเจอเข้า และเรียกเมืองร้างแบบ เมืองใต้น้ำ นิยาย ที่นี่ว่า เมืองศรีเทพนั่นเองค่ะ
สรุปแล้ว ตามหาเมืองลึกลับ อย่างศรีเทพซึ่งแต่เดิมคือ เมืองวิเชียรบุรี
และเมื่อเรื่องราวของความเชื่อที่ที่คล้าย เมืองใต้น้ำ แอตแลนติก เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และเมื่อกรมศิลปากรได้เข้ามาทำการสำรวจและก็ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ปี 2478 และมีพื้นที่ 2889 ไร่ ซึ่งประกอบไปด้วยเมืองในที่มีพื้นที่ประมาณ 1300 ไร่และเมืองนอกประมาณ 1589 ไร่ และยังมีโบราณสถานทั้งน้อยและใหญ่อีกประมาณ 200 แห่งเลยทีเดียวซึ่งตอนนี้อาจจะเหลือไม่ถึงแล้วนะคะ
ตามหาเมืองลึกลับ แห่งนี้ถูกตั้งให้เป็นอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพก็คือตอนปี พ.ศ. 2527 ซึ่งบอกเลยว่าในตอนนี้มีเรื่องราวความลึกลับที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย และในบางเรื่องก็อธิบายไม่ได้อีกด้วย ทำให้เมืองศรีเทพแห่งนี้กลายเป็นตำนานของความลี้ลับอย่าง เมืองใต้มหาสมุทร และมีปริศนาทางประวัติศาสตร์ที่มีการเล่าขานมาหลายชั่วอายุคนและความลึกลับนี้ก็ยังมีมาจนถึงวันนี้อีกด้วยนะคะ