คฤหาสน์วินเชสเตอร์ สถานที่ที่เหล่านักท่องเที่ยว ที่ชื่นชอบและหลงใหลในเรื่องราว ลี้ลับต่างเดินทางมา เพื่อพิสูจน์ในที่แห่งนี้
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ (Winchester House) คือหนึ่งในสถานที่ ๆ เลื่องชื่อตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ที่สามารถเชิญชวน ให้นักท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งผู้ที่สนใจเรื่องราวลี้ลับ ได้มาเห็นและสัมผัสด้วยตัวเอง
สถานที่ดังกล่าว มีการออกแบบ ที่ค่อนข้างประหลาด อย่างเช่น บันไดที่เป็นเส้นทาง นำไปสู่ทางตัน ประตูเมื่อเปิดออกไป พบกับความว่างเปล่า อีกทั้งยังเรื่องเล่าขานกันว่า มีผู้พบเห็นกับ วิญญาณบ่อยครั้ง
เจ้าของบ้านหลังนี้มีชื่อว่า “ซาราห์ วินเชสเตอร์ (Sarah Winchester)” เธอคือหญิงที่ใครหลายคน รู้จักกันอย่างดี ว่าเป็นผู้ที่มีความเชื่อ เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณ และ สถานที่สิ่งลี้ลับต่างประเทศ เป็นอย่างมาก
เธอเป็นคนคอนเนคติคัต ในประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปีค.ศ.1879 (พ.ศ.2422) เธอเติบโตมีฐานะที่ร่ำรวย อีกทั้งยังเป็นที่นับหน้าถือตา ในกลุ่มของเศรษฐี พ่อของเธอเป็นเจ้าของ โรงงานผลิตรถม้ารายใหญ่ ส่วนแม่ของเธอนั่น เป็นหญิงสาวที่อยู่ในชนชั้นสูง
ด้วยเหตุที่เธอเติบโต มาในตระกูลที่ร่ำรวย อยู่ในวงสังคมชั้นสูง ซึ่งพ่อแม่ของเธอ ได้เลือกคู่ครองให้เธอ เขาคนนั้นมีชื่อว่า “วิลเลียม วินเชสเตอร์ (William Winchester)” เขาเป็นลูกชายคนเดียวของ “โอลิเวอร์ วินเชสเตอร์ (Oliver Winchester)”
ผู้ก่อตั้งบริษัท “Winchester Repeating Arms Company” เป็นโรงงานที่ผลิตปืนรายใหญ่ บริษัทของตระกูลวินเชสเตอร์นั้น สามารถทำรายได้มหาศาล จึงทำให้ครอบครัวของเขา ร่ำรวยอย่างมาก ด้วยเหตุที่เขาเป็น ลูกชายคนเดียวนี้เอง เรียกได้ว่าวิลเลียม เป็นเจ้าของบริษัทคนต่อไป รวมถึงจะได้ครอบครอง ทรัพย์สมบัติมหาศาล
วิลเลียมได้สมรสกับซาราห์ เมื่อปีค.ศ.1895 (พ.ศ.2438) และหลังจากแต่งงานได้สามปี ก็ให้กำเนิดลูกสาวขึ้นมา แต่แล้วความสุขของทั้งคู่ ก็ต้องสิ้นสุดลง เพราะว่าหลังคลอดลูกได้เพียง 30 วัน ลูกสาวของพวกเขา ก็เสียชีวิตเพราะเป็นโรคมาราสมัส ซึ่งโรคนี้มีสาเหตุ ก็คือขาดพลังงานและโปรตีน อย่างเฉียบพลันนั่นเอง
ซาราห์รู้สึกโศกเศร้า และเสียใจอย่างมาก เธอไม่มีความยินดี หรือมีความสุข กับกิจการที่ใหญ่โต รวมถึงเงินทองที่มากมาย มหาศาลของสามี เธอคิดว่ากิจการที่ ครอบครัววินเชสเตอร์ทำอยู่นั้น เป็นธุรกิจบาป และเป็นเรื่องที่เธอรังเกียจ ในเวลาต่อมา พ่อของวิลเลียมได้เสียชีวิตลง เมื่อปีค.ศ.1903 (พ.ศ.2446) สมบัติทุก ๆ อย่างก็ตกเป็นของลูกชาย
คฤหาสน์วินเชสเตอร์ ซึ่งในระยะแค่เพียง หนึ่งปีต่อมาเท่านั้น วิลเลียมได้ล้มป่วย และเสียชีวิตลง ทรัพย์สินทั้งหมดของเขา ก็ตกเป็นของซาราห์ เธอกลายเป็นเจ้าของ ทรัพย์สินมูลค่ามากกว่า 30 ล้านดอลลาร์
(ถ้าจะคิดเป็นค่าเงิน ในปัจจุบันจะประมาณ 800 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 23,000 ล้านบาท) อีกทั้งยังมีหุ้นของบริษัทอีก 60% โดยสามารถสร้างรายได้ ให้กับเธอมากกว่า 1,800 ดอลลาร์ต่อวัน (ถ้าจะคิดเป็นค่าเงิน ในปัจจุบันจะประมาณ 28,000 ดอลลาร์ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 820,000 บาท) ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ซาราห์กลายเป็น หนึ่งในผู้หญิง ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก
แต่เธอกลับคิดว่า มรดกที่ได้มานั้น ล้วนแต่เป็นเงินบาป เพราะมาจากการขายอาวุธ ที่เพื่อใช้ฆ่าผู้คนมากมาย เธอจึงเดินทางไปขอคำปรึกษา จากหมอดูที่บอสตัน และยังให้ร่างทรงสื่อถึง วิญญาณของสามี และลูกสาวของเธอ ร่างทรงได้กล่าวว่า
สาเหตุทำให้สามีและลูกของเธอ เสียชีวิตก่อนวัยอันควร เนื่องจากคำสาปแช่ง ของพวก วิญญาณชั่วร้าย จำนวนมาก ที่เสียชีวิตจากอาวุธที่ทำจาก โรงงานของตระกูลสามีเธอ วิญญาณพวกนี้มีความแค้น จึงได้พรากชีวิต คนที่เธอรักไปทีละคน ซึ่งคนต่อไปก็คือ ซาราห์นั่นเอง
วิญญาณมีความอาฆาต อีกทั้งบรรดาสิ่งชั่วร้าย ทำให้ชีวิตของเธอ ไม่มีความสุขเลย หากอยากให้เรื่องร้าย กลายเป็นดีหรือเบาบางลง ต้องทำให้วิญญาณพอใจ วิธีที่ช่วยได้คือเธอ จะต้องย้ายไปทางฝั่งตะวันตก และสร้างบ้านให้กับวิญญาณ ที่เร่ร่อนไปมา
อีกทั้งเวลาสร้างบ้านนั้น ต้องให้เกิดเสียงดังอยู่ตลอด ลี้ลับลึกลับหลุดโลก เนื่องจากเสียงในการสร้างบ้าน จะทำให้วิญญาณไม่กล้าเข้าใกล้ เมื่อเธอได้ยินเช่นนั้น ก็รีบทำตามทันที จึงได้ตัดสินใจ ย้ายจากนิวอิงแลนด์ ไปที่ซาน โฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย
เมื่อปีค.ศ.1915 (พ.ศ.2458) เธอตัดสินใจซื้อบ้าน ที่ยังสร้างไม่เสร็จหลังหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บนหุบเขาซานตาคลารา จากนั้นได้จ้างช่างก่อสร้าง เพื่อมาสร้างบ้านต่อให้เสร็จ เพียงเวลาต่อมาไม่นาน บ้านหลังนี้ก็กลายเป็น คฤหาสน์หลังใหญ่ โดยบรรดาช่างก่อสร้าง ทำงานกันตลอดทั้งวันทั้งคืน
ซาราห์มีความตั้งใจ จะให้วิญญาณร้าย สถานที่ลึกลับ ที่เข้ามาในบ้านนี้หลงทาง จึงให้ออกแบบภายใน ที่เรียกได้ว่า ไม่เหมือนที่อยู่อาศัยทั่วไป เช่น การทำบันไดที่เดินไปถึงทางตัน หน้าต่างที่เปิดออกไป
แล้วพบกับห้องอื่น ประตูที่เปิดไปเจอกับ ความว่างเปล่า พื้นที่ส่วนกลาง ที่เดินแล้วกลับมาที่เดิม ซาราห์มีความตั้งใจว่า การออกแบบที่แปลกแบบนี้ จะทำให้วิญญาณเหล่านี้หลงทาง และหาตัวเธอไม่พบ
ตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่ ก็ได้สั่งช่างให้ต่อเติม คฤหาสน์นี้อยู่ตลอดเวลา โดยค่อย ๆ ให้ช่างสร้างส่วนต่าง ๆ ของคฤหาสน์เพิ่มขึ้นมาเรื่อย ๆ ซึ่งในคฤหาสน์นี้มีห้องลับต่าง ๆ มากมาย หน้าต่างที่เปิด ออกไปนอกบ้าน และทางลับอยู่มากมาย ถือได้ว่าเหมือนเขาวงกตอยู่ใน คฤหาสน์โดยแท้จริง
เธอมีความคิดว่า ถ้าเธอสร้างสถานที่แห่งนี้ ให้มีความสลับซับซ้อน เหล่าวิญญาณจะไม่มารบกวนเธอได้ จึงให้ช่างสร้างห้องลับ ประตูที่ลึกลับเอาไว้ รวมถึงบันไดหลอก ๆ เพื่อเอาไว้หลอกล่อ ให้พวกวิญญาณสับสน
ซึ่งเธอใช้เวลาในการสร้าง และต่อเติมคฤหาสน์นี้ เป็นเวลาทั้งสิ้น 40 ปีเต็ม โดยคฤหาสน์นี้มีทั้งหมด 8 ชั้น มีห้องทั้งหมด 170 ห้อง ประตู 879 บาน หน้าต่างมากถึงหมื่นบาน เตาผิง 50 เตา สร้างบันไดอีก 47 ที่ ห้องจัดเลี้ยง 5 ห้อง ลิฟท์ 4 ตัว ปล่องไฟที่คอยให้ แสงสว่างอีกมากมาย และโถงส่วนกลางมากกว่า 15 โถง
เมื่อปีค.ศ.1923 (พ.ศ.2466) ซาราห์เสียชีวิตอย่างสงบ ระหว่างนอนหลับอยู่ ภายในคฤหาสน์วินเชสเตอร์ ที่แสนจะลึกลับ จนกลายเป็นเรื่องเล่า ของชาวบ้านแถวนั้น ในปัจจุบันนี้คฤหาสน์วินเชสเตอร์
ถือว่าคือหนึ่งในสถานที่ ๆ ที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว จากทั่วทุกมุมโลก ที่ชื่นชอบชื่นชมกับความหรูหรา และลึกลับ
ภายในคฤหาสน์แห่งนี้ มีห้องมากกว่า 170 ห้อง ซึ่งแต่ละห้องนั้น มีความน่าพิศวง นอกจากนี้ ยังมีเรื่องล่าว่า มีผู้พบเห็นวิญญาณจำนวนมาก ยังอยู่ภายในคฤหาสน์แห่งนี้ จนถึงทุกวันนี้ เรื่องราวของซาราห์ วินเชสเตอร์ และ คฤหาสน์ที่ลึกลับ ถือว่าคือตำนานหนึ่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา จนถึงปัจจุบันนี้
เรียบเรียงโดย อลิส